โรคสมาธิสั้น พบมากในเด็กและผู้ใหญ่ มีความผิดปกติในด้านพฤติกรรมได้แก่ ขาดสมาธิไม่นิ่ง หุนหันพลันแล่น เสียหน้าที่ในการดำเนินชีวิต มีปัญหาการเรียน เติบโตเป็นวัยรุ่นที่มีปัญหา เช่น ติดสารเสพติด พฤติกรรมเกเร ปัญหาพฤติกรรมทางเพศ สาเหตุ คือ ทางพันธุกรรม ทางชีวภาพ ทางพัฒนาการ สังคมและสิ่งแวดล้อม และในบุตรที่มารดาอายุน้อย การดูแลที่ไม่ถูกวิธี ครูและผู้ปกครองไม่เข้าใจโรคและข้อจำกัดของเด็กส่งผลให้การเรียนแย่ลง จังหวัดขอนแก่นเป็นแม่ข่ายเริ่มโครงการ HERO เป้าหมายช่วยเหลือเด็กกลุ่มเสี่ยงที่มีปัญหาพฤติกรรมให้เป็นเด็กดีของสังคม โรงพยาบาลหนองฮี จังหวัดร้อยเอ็ดได้เข้าร่วมโครงการโดยมีเครือข่ายระบบสุขภาพปฐมภูมิ เครือข่ายครู และผู้ปกครองมีส่วนร่วมในการดูแลเด็กเพื่อได้รับการดูแลรักษาดำเนินการ พ.ศ.2561-2565 จัดให้มีระบบบริการดูแลรักษาที่ครอบคลุมเพิ่มการเข้าถึงบริการที่มีคุณภาพและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ของเด็ก
เพื่อประเมินประสิทธิผลทางคลินิกและด้านความสามารถ การจัดบริการโรคสมาธิสั้นในกลุ่มอายุ 6–17ปี พื้นที่อำเภอหนองฮี จังหวัดร้อยเอ็ด ใน 3มิติ คือ ความจำเป็นด้านสุขภาพ การใช้บริการ และประสิทธิผลของการบริการ
การวิจัยประเมินผลนี้เป็นแบบย้อนหลังจากผลลัพธ์สุขภาพ เป็นการประเมินผลสัมฤทธิ์ของระบบบริการสุขภาพโรงพยาบาลหนองฮี ศึกษาความครอบคลุมอย่างมีประสิทธิผลรูปแบบการจัดบริการโรคสมาธิสั้นในเด็กและวัยรุ่นอายุ 6 – 17 ปี พื้นที่อำเภอหนองฮี จังหวัดร้อยเอ็ด ศึกษาใน 3 มิติ คือ มิติความจำเป็นด้านสุขภาพ มิติการใช้บริการ และมิติประสิทธิผลของการบริการ แบ่งออกเป็น 2 ด้าน คือ ประสิทธิผลทางคลินิก และประสิทธิผลด้านความสามารถ ทำการศึกษาเด็กและเยาวชน จำนวน 175 ราย ที่วินิจฉัยโรคสมาธิสั้น ใช้แบบประเมินคัดกรองภาวะโรคสมาธิสั้น KUS-SI แบบประเมินพฤติกรรม SNAP-IV และแบบบันทึกผลการเรียน (GPA) เก็บข้อมูลระหว่างเดือนมิถุนายน 2562 – มีนาคม 2563 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพรรณนา จำนวน และร้อยละ โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป SPSS
ผลการศึกษา พบว่า ความต้องการทางสุขภาพในการต้องจัดบริการบำบัดรักษาโรคสมาธิสั้นในเด็กและวัยรุ่น เท่ากับร้อยละ 8.74 การได้รับบริการสุขภาพตามความจำเป็น เท่ากับร้อยละ 100 แต่พบอัตราการเข้ารับการบำบัดรักษาลดลงระยะ 3 เดือน คงเหลือ 94.47 ระยะ 6 เดือน คงเหลือ ร้อยละ 92.00 และ เมื่อครบ 1 ปี คงเหลือ ร้อยละ 90.00 โดยที่ประสิทธิผลการรักษาทางคลินิก พบว่า เมื่อรักษาครบ 1 ปี กลุ่มที่มีอาการขาดสมาธิลดลงเหลือ ร้อยละ 8.90 (จากก่อนการรักษา ร้อยละ 100) อาการอยู่ไม่นิ่ง หุนหันพลันแล่นคงเหลือร้อยละ 4.79 (จากก่อนรับการรักษา ร้อยละ 38.28) และผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษา พบว่า ระดับเกรดเฉลี่ย เพิ่มสูงอยู่ในระดับ มากกว่า 3 – 4 ร้อยละ 44.57 (จากเดิมก่อนการบำบัดรักษา ร้อยละ 5.71)
พัฒนารูปแบบการจัดบริการสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นในพื้นที่และเกิดผลลัพธ์ที่ดีในการรักษาผู้ป่วยสมาธิสั้น โดยเครือข่ายครู หมอ พ่อแม่ และชุมชนตลอดจนขยายผลรูปแบบภาระการดำเนินงานในพื้นที่ เพื่อให้เกิดผลลัพธ์การดูแลผู้ป่วย ADHD ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
การดูแลรักษาผู้ป่วย ADHD ให้เกิดประสิทธิภาพต้องใช้ความร่วมมือของทั้งผู้ปกครองครูโรงเรียนและทีมสุขภาพที่ทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่องและมีการจัดระบบบริการที่เชื่อมโยงกันแบบภาคีเครือข่ายอย่างแท้จริง
ความร่วมมือของภาคีเครือข่าย การพัฒนาระบบบริการให้เชื่อมโยงเบ็ดเสร็จผสมผสานเข้าถึงง่าย การจัดหาเวชภัณฑ์ที่จำเป็นให้มีในหน่วยบริการที่ใกล้ชิดประชาชนในวงเล็บ ยารักษาสมาธิสั้นควรมีในโรงพยาบาลชุมชน
ไม่เป็น
วารสารวิชาการ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพปีที่ 19 ฉบับที่ 2 เดือน พฤษภาคม ถึง สิงหาคม 2566
ไม่เคย
ไม่เคย