จากสถิติผู้ป่วยโรคหืดในคลินิกปอดอุดกั้นเรื้อรั้ง และโรคหืด โรงพยาบาลสังคม จังหวัดหนองคาย พบว่า ตั้งแต่ปี พ.ศ.2561 – ปี พ.ศ.2563 มีผู้ป่วยที่ขึ้นทะเบียนเป็นโรคหืดทั้งสิ้น 162 ราย แบ่งเป็นผู้ป่วยที่อาการไม่คงที่และมารับการรักษาที่โรงพยาบาลตามนัดทั้งสิ้น 60 ราย ในจำนวนนี้ เป็นผู้ป่วยที่มีโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ร่วมด้วย 48 รายคิดเป็นร้อยละ 80 การสุมยาสมุนไพร เป็นอีกหนึ่งหัตถการในทางแพทย์แผนไทย โดยใช้ความร้อนชื้นจากไอน้ำ เป็นตัวพาน้ำมันหอมระเหยจากสมุนไพรที่มีรสร้อน ที่มีฤทธิ์ยับั้งสารก่อภูมิแพ้ ได้แก่ เหง้ากระชายดำ เหง้าไพล เหง้าขมิ้นชัน เปราะหอม เหง้าขิง เหง้ากระทือ ปัจจุบันโรงพยาบาลสังคมได้มีการพัฒนาตำรับยาสุมสมุนไพร และได้นำตำรับยาสุมสมุนไพรใช้ในกลุ่มผู้ป่วยโรคหืดที่มีโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ร่วมด้วย ดังนั้นการศึกษานี้จึงเป็นการนำผลในการนำการสุมสมุนไพรมาใช้ดูแลผู้ป่วย
เพื่อศึกษาผลของการสุมยาสมุนไพรในผู้ป่วยโรคหืดที่มีโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ร่วมด้วย คลินิกโรคปอดอุดกั้นเรื้อรั้งและโรคหืด โรงพยาบาลสังคม อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย
เป็นการศึกษาแบบกึ่งทดลอง ด้วยวิธีศึกษาแบบกลุ่มเดียวทดสอบก่อนและหลังการทดลอง โดยไม่มีกลุ่มควบคุม ซึ่งผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดหนองคาย เลขที่โครงการวิจัย 8/2564 กลุ่มตัวอย่าง เป็นผู้ป่วยโรคหืดที่มีโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ร่วมด้วย ที่มารับการรักษาที่คลินิกโรคปอดอุดกั้นเรื้อรั้ง และโรคหืด โรงพยาบาลสังคม จังหวัดหนองคาย ที่เข้ารับการรักษาในคลีนิคแพทย์แผนไทยทุกรายที่มา ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ถึงเดือนมิถุนายน 2564 และมีคุณสมบัติตามเกณฑ์การคัดเข้า ได้กลุ่มตัวอย่างมาทั้งสิ้น จำนวน 30 คน สถิติที่ใช้และการวิเคราะห์ข้อมูล ข้อมูลทั่วไป ใช้สถิติเชิงพรรณนา ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน แบบประเมินอาการผู้ป่วย เนื่องจากข้อมูลที่ได้เป็นแบบ non-paramedicจึงใช้สถิติ Wilcoxon Matched pairs แบบประเมินความพึงพอใจ เนื่องจากเป็นข้อมูล Norminal Data จึงใช้สถิต
กลุ่มตัวอย่าง 30 ราย เป็นเพศหญิงร้อยละ 63.3 เพศชาย ร้อยละ 36.7 อายุเฉลี่ยอยู่ที่ 57 ปี ผู้ที่มีโรคประจำตัวเป็นโรคหอบหืด ระยะเวลาเฉลี่ยที่เป็นโรคนี้ 10 ปีเมื่อเปรียบเทียบอาการผุ้ป่วยก่อนและหลังโดย Wilcoxon Matched pairs พบว่า ขนาดอาการของโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ลดลง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ p-value < 0.001 โดยพบว่า อาการคัดจมูกลดลงหลังการรักษาครั้งที่ 3 ส่วนอาการน้ำมูกไหล จาม และคัดจมูก อาการลดลงหลังการรักษาครั้งแรก ในส่วนของความถี่ของอาการโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ พบว่าความถี่ของโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ลดลง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ p-value < 0.001 โดยพบว่า ความถี่ของโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ลดลง หลังการรักษาครั้งที่ 3 ค่าเฉลี่ยความพึงพอใจของการใช้ยาสุมสมุนไพร ด้านที่มีคะแนนสูงสุดคือการให้คำแนะนำในการสุมยาสมุนไพรของแพทย์แผนไทย ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 4.73 และด้านที่มีคะแนนน้อยที่สุดคือ ฉลากยาสุม
เพื่อเป็นการรักษาร่วมกันระหว่างสหวิชาชีพ ซึ่งการรักษาอาการทางจมูกจะมีผลลดความรุนแรงของโรคหืดได้ในผู้ป่วยที่มีโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ร่วมด้วย โดยลดความจำเป็นในการต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล การต้องมาตรวจฉุกเฉินได้ถึงครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยที่ไม่ได้รับการรักษาอาการทางจมูก
ผลการศึกษานี้สอดคล้องกับกลไกการเกิดอาการจมูกอักเสบภูมิแพ้ ตามทฤษฎีการแพทย์แผนไทย ที่ว่า เมื่อมีสิ่งแปลกปลอมเข้ามาในร่างกาย ธาตุน้ำ (เสมหะธาตุ) จะกำเริบ ดังนั้นการใช้ยารสร้อนสุขุม จะเป็นส่วนช่วยให้ธาตุน้ำ กลับมาทำงานได้ปกติ และจะเป็นตัวขับของสียออกจากร่างกาย ทางสิงฆานิกา (จมูก) เมื่อของเหลวที่จับตัวกับสิ่งแปลกปลอมถูกขับออกแล้ว จมูกจะโล่งขึ้น การหายใจสะดวกมากขึ้น ธาตุลม (วาตะธาตุ) ไหลเวียนได้ดีขึ้น
การสนับสนุนของผู้บังคับบัญชา การยอมรับของสหวิชาชีพ และแพทย์มีการส่งต่อผู้ป่วยกลุ่มนี้มารับการรักษาด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทยมากขึ้น อีกทั้งญาติและตัวผู้ป่วยเองให้ความเชื่อมั่นและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์แผนไทย
ไม่เป็น
ไม่เคย
โครงการประชุมวิชาการกระทรวงสาธารณสุข ประจำปี 2565 ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี 2565
ไม่เคย