จากการสำรวจสภาวะทันตสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2555 และพ.ศ.2560 พบว่าเด็ก 3 ปีมีฟันผุเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 51.7 เป็นร้อยละ 52.9 และพบฟันผุระยะเริ่มต้นร้อยละ 31.1 ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการส่งเสริมป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดฟันผุเป็นรู กลุ่มงานทันตกรรมรพ.พนมไพร ได้ดำเนินกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพช่องปากเด็ก 0-3 ปีที่คลินิกเด็กดีในรพสต.เพียงอย่างเดียวทำให้การเข้าถึงบริการและการรับรู้ความรุนแรงของโรคฟันผุน้อยไม่ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายทั้งอำเภอ ในปี 2558 จึงได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการให้บริการเป็นการออกหน่วยในเขตพื้นที่โดยได้จัดกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพช่องปากเด็กก่อนวัยเรียนครอบคลุมรพ.สต. 15 แห่ง ทั้งที่มีและไม่มีทันตบุคลกรอยู่ประจำ เพื่อให้ผู้ปกครองและเด็กที่ไม่เคยได้รับบริการเข้าถึงบริการ และลดปัญหาฟันน้ำนมผุในเด็กก่อนวัยเรียน ผู้วิจัยจึงได้สนใจศึกษาและพัฒนาระบบเพื่อนำข้อมูลที่ได้มาใช้พัฒนางานในพื้นที่ต่อไป
1.เพื่อพัฒนารูปแบบการส่งเสริมสุขภาพช่องปากเด็กอายุไม่เกิน 3 ปี อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด 2.เพื่อประเมินประสิทธิผลการใช้รูปแบบการส่งเสริมสุขภาพช่องปากเด็กอายุไม่เกิน 3 ปี
การวิจัยครั้งนี้ใช้รูปแบบการวิจัยและพัฒนา เพื่อพัฒนารูปแบบการส่งเสริมสุขภาพช่องปากเด็กอายุไม่เกิน 3 ปี อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด เริ่มดำเนินการวิจัยมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 และพัฒนามาเรื่อยๆ จนถึงปี พ.ศ. 2560 และใช้รูปแบบนี้มาจนถึงปี พ.ศ. 2563 โดยแบ่งการวิจัยออกเป็น 4 ระยะ ดังนี้ ระยะที่ 1 ศึกษาปัจจัยพื้นฐานและสังเคราะห์รูปแบบการจัดรูปแบบการส่งเสริมสุขภาพช่องปากเด็กอายุไม่เกิน 3 ปี ระยะที่ 2 การพัฒนารูปแบบการส่งเสริมสุขภาพช่องปากเด็กอายุไม่เกิน 3 ปี โดยใช้แนวคิดของ Kemmis and McTagart (1998) ในลักษณะวงรอบ 4 ขั้นตอน คือ การวางแผน การปฏิบัติ การสังเกตการณ์ การสะท้อนปรับปรุง ระยะที่ 3 การวิจัยและทดลองใช้รูปแบบการส่งเสริมสุขภาพช่องปากเด็กอายุไม่เกิน 3 ปี ระยะที่ 4 การพัฒนา ประเมินผลและปรับปรุงรูปแบบการการส่งเสริมสุขภาพช่องปากเด็กอายุไม่เกิน 3 ปี จำนวน 3 วงรอบ ติดตามผลจากร้อยละเด็ก 3 ปีปราศจากฟันน้ำนมผุ
ระยะที่1เปลี่ยนรูปแบบการให้บริการเป็นการออกหน่วยให้ครอบคลุมทั้ง 15 รพ.สต.โดยใช้รูปแบบที่พัฒนาขึ้นซึ่งมี 3 กิจกรรม1) ตรวจฟันเด็กสัมภาษณ์ผู้ปกครองให้คำแนะนำเป็นรายบุคคล 2) ฝึกผู้ปกครองแปรงฟันให้เด็กแบบลงมือปฏิบัติจริง 3) ทาฟลูออไรด์วาร์นิชในเด็กที่มีฟันขึ้นในช่องปาก ทำให้การเข้าถึงบริการและผู้ปกครองได้รับความรู้เพิ่มขึ้น ระยะที่ 2 วิเคราะห์ข้อมูลและติดตามผลพบปัจจัยที่สัมพันธ์กับการเกิดฟันผุคืออนามัยช่องปาก การกินนมแม่นานเกิน 6 เดือน จึงปรับเนื้อหาในการให้ความรู้ผู้ปกครองเน้นการฝึกทักษะผู้ปกครองในการแปรงฟันให้เด็ก หลังจากติดตามประเมินผลพบว่าเด็กมีสุขภาพช่องปากดีขึ้นแต่ผู้ปกครองยังแปรงฟันไม่สะอาดโดยเฉพาะบริเวณคอฟัน ระยะที่ 3 เน้นฝึกผู้ปกครองแปรงฟันให้เด็กอย่างเข้มข้น หลังจากเริ่มดำเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่องในปี 2558 – 2563 พบว่าเด็กปราศจากฟันน้ำนมผุเพิ่มขึ้จากร้อยละ 37.5 เป็นร้อยละ 62.8
กรดำเนินการออกหน่วยในรพ.สต.ทั้ง 1 แห่งในพื้นที่ทำให้เด็กได้รับบริการอย่างทั่วถึงและคลอบคลุมกลุ่มเป้าหมาย ผู้ปกครองสามรถนำความรู้ และคำแนะนำในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไปใช้ดูแลสุขภาพช่องปากเด็กได้
การพัฒนารูปแบบการส่งเสริมสุขภาพช่องในเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี เป็นกระบวนการที่สำคัญอย่างยิ่งเพื่อให้เด็กเล็กได้เข้ารับบริการอย่างต่อเนื่องสุขภาพช่องปากที่ดีเป็นต้นทุนการพัฒนาการทั้งในด้านร่างกาย และการเรียนรู้ในสิ่งต่างๆไปจนถึงคุณภาพชีวิตที่ดีในอนาคต
การสนับสนุนการดำเนินงานเจ้าหน้าที่ใน CUP พนมไพรทำให้สามารถดำเนินงานในพื้นที่ได้อย่างครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายทั้งอำเภอ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ไม่เป็น
ไม่เคย
ไม่เคย
ไม่เคย