ปัญหาสุขภาพช่องปากที่พบบ่อยในผู้ป่วยเบาหวานคือเหงือกอักเสบและปริทันต์ ซึ่งเกิดได้ง่ายและรุนแรงกว่าคนปกติ ปี 2561 โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเมืองศรีไค ได้ตรวจสุขภาพช่องปากในผู้ป่วยเบาหวานจำนวน 250 คน พบว่ามีฟันผุร้อยละ 45.50 เหงือกอักเสบและปริทันต์ร้อยละ 33.40 ซึ่งต้องรักษาทางทันตกรรม ในบางรายแพทย์จำเป็นให้ยาปฏิชีวนะไปด้วย ซึ่งอาจมีผลข้างเคียงตามมาได้ การใช้สมุนไพรที่มีสรรพคุณทางยาและมีผลข้างเคียงต่ำคือทางเลือกหนึ่งในการทำสูตรยารักษาโรคในช่องปากของผู้ป่วยเบาหวานได้ ต้นข่อยและแก้วเป็นพืชที่หาได้ง่ายในท้องถิ่น สารสกัดต้นข่อยสามารถยับยั้งแบคทีเรียในช่องปากได้ ต้นแก้วก็มีสรรพคุณรักษาโรคภายในช่องปากได้เช่นกัน ผู้วิจัยซึ่งเป็นแพทย์แผนไทยจึงสนใจจะศึกษาผลของการใช้น้ำยาบ้วนปากจากสมุนไพรกิ่งข่อยและกิ่งแก้วต่อการลดเหงือกอักเสบในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2ของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเมืองศรีไค
เพื่อเปรียบเทียบสภาวะเหงือกอักเสบภายในกลุ่มทดลอง ระหว่างกลุ่มทดลองและกลุ่มเปรียบเทียบ ก่อนและหลังการใช้น้ำยาบ้วนปากจากสมุนไพรกิ่งข่อยและกิ่งแก้ว และศึกษาความพึงพอใจต่อการใช้น้ำยาบ้วนปากในกลุ่มทดลอง
การวิจัยกึ่งทดลอง แบบ Before–after two groups pretest – posttest design กลุ่มตัวอย่างคัดเลือกแบบเจาะจงเป็นผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่มีสภาวะเหงือกอักเสบหรือปริทันต์ จำนวน 70 คน แบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มทดลองที่ใช้น้ำยาบ้วนปากจากสมุนไพรกิ่งข่อยและกิ่งแก้วจำนวน 35 คน กลุ่มเปรียบเทียบใช้น้ำยาบ้วนปากที่ไม่มีส่วนผสมของกิ่งข่อยและกิ่งแก้วจำนวน 35 คน โดยให้อมน้ำยาบ้วนปากหลังแปรงฟันตอนเช้าและก่อนนอนทุกวันต่อเนื่องกัน 4 สัปดาห์ แล้วเปรียบเทียบผลก่อนและหลังการทดลองภายในกลุ่มและระหว่างกลุ่ม สอบถามความพึงพอใจของกลุ่มทดลองหลังการใช้น้ำยาบ้วนปาก ใช้สถิติเชิงพรรณนา และสถิติเชิงอนุมาน เปรียบเทียบค่าเฉลี่ยก่อนและหลังการทดลองภายในกลุ่มใช้ Paired Sample t – test เปรียบเทียบค่าเฉลี่ยก่อนและหลังการทดลองระหว่างกลุ่มทดลองและกลุ่มเปรียบเทียบใช้ Independent Samples t – test
การทดลอง พบว่าค่าเฉลี่ยสภาวะเหงือกอักเสบในกลุ่มทดลองก่อนทดลอง =2.29 หลังทดลองกลุ่มทดลอง =1.40 กลุ่มเปรียบเทียบ =2.20 ค่าเฉลี่ยความปวดในกลุ่มทดลองก่อนทดลอง =2.31หลังทดลองกลุ่มทดลอง =1.46 กลุ่มเปรียบเทียบ =2.11 ค่าเฉลี่ยการเสียวฟันในกลุ่มทดลองก่อนทดลอง =2.00หลังทดลอง กลุ่มทดลอง =1.26 กลุ่มเปรียบเทียบ =1.74 ค่าเฉลี่ยมีกลิ่นปากในกลุ่มทดลองก่อนทดลอง =2.29หลังทดลองกลุ่มทดลอง =1.46 กลุ่มเปรียบเทียบ =2.37 ซึ่งการใช้น้ำยาบ้วนปากจากสมุนไพรกิ่งข่อยและกิ่งแก้วหลังการทดลองทำให้สภาวะเหงือกดีขึ้นกว่าก่อนการทดลองและดีขึ้นกว่ากลุ่มเปรียบเทียบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่0.05 ความพึงพอใจในกลุ่มทดลองหลังทดลอง ค่าเฉลี่ยพบว่าพึงพอใจมากที่สุดคือลดอาการปวด =4.49 พึงพอใจมากลดภาวะเหงือกอักเสบ =3.40 ความพึงพอใจโดยรวมอยู่ ระดับพึงพอใจมาก =3.43
การใช้น้ำยาบ้วนปากจากสมุนไพรกิ่งข่อยและกิ่งแก้ว ผู้ป่วยเบาหวานทั้งกลุ่มทดลองและกลุ่มเปรียบเทียบ สามารถผลิตเองได้ สามารถนำไปใช้ในการลดปัญหาเหงือกอักเสบของตัวเองได้ และนำมาประยุกต์ใช้เพื่อเป็นแนวทางการรักษาโรคปริทันต์อักเสบของผู้ป่วยกลุ่มอื่นได้
การใช้น้ำยาบ้วนปากจากสมุนไพรกิ่งข่อยและกิ่งแก้ว เป็นการใช้สมุนไพรที่หาได้ง่ายในท้องถิ่น ส่งเสริมให้คนในชุมชนทำเพื่อใช้เอง และต่อยอดปรับปรุงสูตรผลิตภัณฑ์เพื่อใช้ในการดูแลสุขภาพช่องปากในผู้ป่วยกลุ่มอื่นได้
ผู้บริหารให้การสนับสนุน มีการทำงานเป็นทีมร่วมกับสหวิชาชีพอื่น มีการร่วมวิเคราะห์ วางแผน ปฏิบัติประเมินผล ชุมชนให้ความร่วมมือในการหาพืชสมุนไพร ร่วมผลิตตัวยาใช้ในการบำบัด รักษา กลุ่มผู้ป่วยตั้งใจ และให้ความร่วมมือตลอดการทดลอง
ไม่เป็น
ไม่เคย
ไม่เคย
ไม่เคย