แผลกดทับเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ นอนเตียงนาน การป้องกันแผลกดทับโดยทั่วไปจะใช้ที่นอนลม (Alpha bed ) ร่วมกับการพลิกตะแคงตัว แต่เนื่องจากที่นอนลมไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้ป่วยและราคาสูง จึงได้มีการประยุกต์เบาะเจลผสมยางพาราป้องกันการเกิดแผลกดทับ สะดวกต่อการนำมาใช้ และราคาถูกลง
เพื่อเปรียบเทียบการเกิดแผลกดทับระหว่างเบาะเจลผสมยางพาราและที่นอนลมในผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง
เป็นการศึกษาเชิงทดลอง ต.ค.2562-มี.ค.2563 โดยกำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่าง: ทดสอบ two side, significant 5%, power 80 % ได้กลุ่มตัวอย่าง 2 กลุ่ม กลุ่มละ 84 คน กำหนดคุณสมบัติ คือ Barden score ≤ 14 คะแนนและไม่มีแผลกดทับ วิธีดำเนินการ ผู้ป่วยทุกคนมีสิทธิเลือกใช้ที่นอนลมก่อน กรณีไม่เพียงพอให้ผู้ป่วย/ญาติเลือกใช้ที่นอนเจลและยางพาราตามความสมัครใจ ทำให้ได้ผู้ป่วย 2 กลุ่ม กลุ่มที่ 1 ใช้ที่นอนลม และกลุ่มที่ 2 ใช้ที่นอนเจลและยางพารา จากนั้นประเมินการเกิดแผลกดทับ (Barden score) ทุกเวร นำเสนอด้วยความถี่และร้อยละ วิเคราะห์ข้อมูลด้วย exact probability, test, t-test การผลิตที่นอน ประกอบด้วย 1) เบาะผ้า 2) หมอนยางพารา 4 ลูก 3) หมอนเจล (เจลเหลือใช้) 9 ลูก โดยวางสลับกัน ได้ที่นอนขนาด 110x70 เซนติเมตร น้ำหนัก 10.6 กิโลกรัม รับน้ำหนักผู้ป่วยได้สูงสุด 100 กิโลกรัม ราคาต้นทุน 1,008 บาท
มีผู้ป่วยที่คะแนน Braden score ≤ 14 คะแนนและไม่มีแผลกดทับมาก่อน ทั้งหมดจำนวน 168 ราย ใช้ที่นอนลม 84 ราย 3.6% เกิดแผลกดทับบริเวณก้นกบ 3 ราย 0.0% ใช้เบาะเจลผสมยางพารา 84 ราย ไม่เกิดแผลกดทับเลย
เบาะเจลผสมยางพาราช่วยลดการเกิดแผลกดทับได้ จึงนำไปใช้ในการดูแลผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง เพื่อป้องกันการเกิดแผลกดทับได้ในกรณีที่ไม่มี Alpha bed ในหอผู้ป่วยหนัก และจะเก็บข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อขยายผลใช้ในหน่วยงานอื่น
การใช้แนวปฏิบัติที่ครอบคลุม และการประดิษฐ์ที่นอนทดแทนโดยใช้วัสดุเหลือใช้ สามารถลดการเกิดแผลกดทับ
การเฝ้าสังเกตปัญหา ค้นหาวิธีการ การสนับสนุนจากหัวหน้าและความร่วมมือจากทีมส่งผลให้เกิดผลลัพธ์ที่ดี
ที่นอนยางพาราผสมเจล
ไม่เคย
ไม่เคย
ไม่เคย