pre-loader image
ปิด

รายละเอียดผลงานวิจัย R2R

การพัฒนารูปแบบการดูแลหญิงตั้งครรภ์มีภาวะความดันโลหิตสูง

งานวิจัยปี

2562

คำสำคัญ

การคลอด ความดันโลหิตสูง ชัก ตั้งครรภ์ ภาวะแทรกซ้อน หญิงตั้งครรภ์ โรคหลอดเลือดสมอง

ประเภทผลงานวิจัย

ประเภท ทุติยภูมิ

ระดับของการนำไปใช้

ระดับที่ 3 นำไปใช้ได้หลายแห่งในจังหวัดเดียวกันแล้ว

ประเด็นวิจัยหลัก

อื่นๆ

ประเด็นย่อย

กลุ่มเป้าหมาย

ที่มา

ภาวะความดันโลหิตสูงในหญิงตั้งครรภ์ เป็นภาวะแทรกซ้อนทางสูติกรรมที่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อทั้งสตรีตั้งครรภ์และทารกในครรภ์ โดยอาจทำให้สตรีตั้งครรภ์เกิดการชัก เกิดภาวะโรคหลอดเลือดสมองอย่างฉับพลัน และกลุ่มอาการ HELLP ในขณะที่ทารกอาจเกิดภาวะเจริญเติบโตช้าในครรภ์การคลอดก่อนกำหนดและยังเป็นสาเหตุการเสียเสียชีวิตของมารดาและทารกในครรภ์ ในปี 2559–2560 ห้องคลอดโรงพยาบาลกุดชุมมีหญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะความดันโลหิตสูง ที่ได้รับยา MgSO4 ร้อยละ 21.4 และ21.3ตามลำดับ และพบอุบัติการณ์ได้รับการดูแลไม่เหมาะสม อยู่ ER ร้อยละ 5.2 จากการทบทวนพบว่าหญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะความดันโลหิตสูงไม่ได้รับการดูแลตามมาตรฐาน ไม่มีแนวทางที่ชัดเจน เจ้าหน้าที่ขาดความชำนาญในจัดเตรียมยา การบริหารยา ส่งผลให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาที่ล่าช้า

วัตถุประสงค์

เพื่อศึกษาคุณภาพการดูแลหญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะความดันโลหิตสูงหลังปรับกระบวนการพัฒนาอย่างเป็นระบบ

ระเบียบวิธีวิจัย

เป็นวิจัยเชิงปฏิบัติการ มี 4 ขั้นตอน คือ 1)ศึกษาวิเคราะห์ข้อมูล เกณฑ์และแนวทางในการดูแลหญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะความดันโลหิตสูง 2)ประชุมทีมสหวิชาชาชีพ กำหนดรูปแบบในการดูแลรักษา เกณฑ์คัดเข้ารับบริการ การดูแล/ส่งต่อ ตามแนวทางมาตรฐาน ทบทวนแนวทางการให้ยา 3)ออกแบบนวัตกรรม ให้ตอบสนองความต้องการของสหวิชาชีพและสอดคล้องกับมาตรฐาน ทดลองใช้ ปรับปรุงพัฒนาให้มีประสิทธิภาพ 4)จัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทั้งในและนอกรพ. กลุ่มตัวอย่างเป็นหญิงตั้งครรภ์อายุครรภ์ 20 wks ขึ้นไป ร่วมกับมีความดันโลหิตมากกว่า 140/90 มม.ปรอท และมีอาการเจ็บครรภ์คลอด เลือกแบบเจาะจง (Purposive sampling) ในช่วง ตค. 2560 - กย. 2561 โดยใช้เครื่องมือเป็น แบบประเมินทักษะบุคลากร แบบฟอร์ม double check แบบประเมินการใช้และแบบประเมินความพึงพอใจ ใช้สถิติเชิงพรรณนา ร้อยละ และทดสอบค่าความแตกต่าง proportion test

ผลการศึกษา

หญิงตั้งครรภ์ภาวะความดันโลหิตสูงมีความปลอดภัยและได้รับการดูแลตามมาตรฐานร้อยละ 100 พยาบาลมีความพึงพอใจต่อการใช้ที่มีงาน คิดเป็นร้อยละ 100 เนื่องจากใช้ง่าย สะดวก ลดระยะเวลาในการให้ยาลงจาก..15 นาที เป็น 5 นาที ไม่มีอุบัติการณ์ Med Error และมีระบบ Fast track สำหรับหญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ 20 สัปดาห์ขึ้นไปที่มีภาวะความดันโลหิตสูง เกิดนวัตกรรม “กล่องกันชัก” ทดสอบค่าความแตกต่างผลลัพธ์หลังพัฒนาพบว่าดีขึ้นกว่าก่อนพัฒนาอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05

การนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ในงานประจำ

จากการศึกษาได้เกิดวัตกรรม“กล่องกันชัก”ที่พบว่ามีประโยชน์และความปลอดภัยต่อผู้รับบริการ สะดวกในการใช้งาน ช่วยให้ผู้ปฏิบัติทำงานได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับคนไข้โรคอื่นๆได้ ขยายไปยังรพ.ใกล้เคียง

บทเรียนที่ได้รับ

บุคลากรเกิดกาเรียนรู้และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทั้งในและนอกรพ.เพื่อพัฒนาต่อยอดนวัตกรรม

ปัจจัยแห่งความสำเร็จ

ความร่วมมือของทีมสหวิชาชีพ และการได้รับสนันับสนุนจากผู้บริหาร

Keywords

  • หญิงตั้งครรภ์เสี่ยง

เกี่ยวกับโรค

ไม่เกี่ยวข้อง

เป็นสิ่งประดิษฐ์

คิดค้นมาเพื่อผู้รับบริการและบุคลากร

เคยได้รับการตีพิมพ์

ไม่เคย

เคยได้รับการเผยแพร่มาก่อน

ไม่เคย

รางวัลที่ได้รับ

ไม่เคย

ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคล

นักวิจัย
ที่ปรึกษา
คุณอำนวย

ข้อมูลเกี่ยวกับองค์กร

จังหวัด
ยโสธร
เครือข่าย R2R
เครือข่าย R2R อุบลมุกศรีโสธรเจริญ
เขตสุขภาพ
เขตที่ 10
ภูมิภาค
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ข้อมูลอื่น ๆ

การสนับสนุน
การสนับสนุนทั่วไป
  • ไม่ได้รับการสนับสนุน/ไม่มีข้อมูล
การสนับสนุนจากแหล่งทุนสนับสนุน
  • ไม่มีข้อมูล
เผยแพร่เมื่อ
2562
งานวิจัยนี้ส่งโดย
มีผู้ส่งแทน : นัทธมนต์ สายสอน (nulek_say@yahoo.co.th)
นำเข้าโดย
เครือข่าย R2R ประเทศไทย