pre-loader image
ปิด

รายละเอียดผลงานวิจัย R2R

การมีส่วนร่วมของชุมชนในการดำเนินงาน งานศพปลอดเหล้าแบบยั่งยืน ต.ดงเมือง อ.ยางสีสุราช จ.มหาสารคาม

งานวิจัยปี

2561

คำสำคัญ

ความดันโลหิตสูง ตับ ตา บาดเจ็บ วิตกกังวล สมอง อุบัติเหตุ โรคหัวใจ

ประเภทผลงานวิจัย

ประเภท บริการ

ระดับของการนำไปใช้

ระดับที่ 1 นำไปใช้ในหน่วยงานตนเองแล้ว

ประเด็นวิจัยหลัก

การป้องกันควบคุมโรค

ประเด็นย่อย

กลุ่มเป้าหมาย

ที่มา

จากการสำรวจข้อมูลการแก้ไขปัญหาชุมชนระหว่างองค์การบริหารส่วนตำบลดงเมือง ร่วมกับสมาคมสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดมหาสารคาม โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านสุขสำราญ จำนวน 9 หมู่บ้าน พบจำนวนผู้บริโภคเหล้าในชุมชนสูงถึงร้อยละ 82.2 (ผู้ชายร้อยละ 89.26 ผู้หญิง ร้อยละ 71 ) ช่วงอายุ 10 ปีขึ้นไป งานศพบรรยากาศแห่งความโศกเศร้ากับเห็นแต่กลิ่นคลุ้งของสุราเรียงรายรอบศพ ชาวบ้านคิดว่าเครื่องดื่มที่เป็นเหล้าหรือแอลกอฮอล์จำเป็นมากขาดไม่ได้ในงานศพ สิ่งที่ตามมาอีกอย่างหนึ่งในงานศพคือการพนัน วงไพ่ ไฮไล จะมีเด็กระดับประถมศึกษาร่วมทุกวง บรรยากาศเช่นนี้เกิดขึ้นในทุกงาน เกิดหนี้สินหลังงานศพหากครอบครัวใดที่ไม่ได้เป็นสมาชิกฌาปนกิจศพธกส. หรือผู้วายชนม์ที่ไม่มีกองทุนประกันชีวิตใดๆมีการจำนองที่ดิน ขายทรัพย์สินชดใช้ค่างานศพและพฤติกรรมการบริโภคเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ส่งผลต่อสุขภาพมีผลกระทบหลายประการ เช่น โรคมะเร็งตับ ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ เส้นเลือดในสมองแตกอุบัติเหตุ การบาดเจ็บ ปัญหาสังคม

วัตถุประสงค์

เพื่อศึกษากระบวนการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยการใช้งานศพปลอดเหล้า ตำบลดงเมือง อำเภอยางสีสุราช จังหวัดมหาสารคาม

ระเบียบวิธีวิจัย

เน้นการถอดบทเรียนจากกระบวนการประชาคมร่วมกันแบบมีส่วนร่วมของทุกครอบครัว ทุกหมู่บ้าน ในพื้นที่ตำบลดงเมือง ตั้งแต่เริ่มคิด วิเคราะห์ ตัดสินใจ ดำเนินกิจกรรม สรุป ประเมินผลร่วมกัน ในกลุ่มตัวอย่าง ผู้นำชุมชน อสม. ครอบครัวงานศพ สมาชิกอบต. จนท.สาธารณสุข จนท.อบต. โดยการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม (Parcipatory Action Research) เครื่องมือที่ใช้ แนวคำถามในการสัมภาษณ์เชิงลึก สนทนากลุ่ม แบบสรุปบทเรียน แบบสังเกต วิเคราะห์ข้อมูล เชิงคุณภาพโดยการวิเคราะห์เนื้อหา (Content analysis)เชิงปริมาณ โดย ค่าเฉลี่ย ร้อยละ

ผลการศึกษา

1.กิจกรรมงานศพปลอดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เป็นเป้าประสงค์ร่วมกัน 2.มีการกำหนดบทบาทให้ตัวแทนครอบครัวทุกครอบครัวเข้าร่วมเรียนรู้ปัญหาและหาทางออกร่วมกัน 3.การมีคณะทำงานในระดับหมู่บ้านทำให้บรรยากาศในงานผู้วายชนม์ไม่โดดดี่ยว 4.ชุมชนสนใจในการเข้าร่วมงานจำนวนมากขึ้นและให้กำลังใจซึ่งกันและกัน 5.ทุกครอบครัวมีส่วนคิดตัดสินใจและการปฏิบัติการร่วมกันอย่างมีเป้าหมายร่วมกัน 6.ทุกคนทำงานด้วยจิตใจอาสาด้วยใจรัก จากการดำเนินงาน พบว่า 1.ค่าใช้จ่ายในงานศพผู้วายชนม์ ลดลงจากเดิมก่อนการดำเนินการ ร้อยละ50 2. ชุมชนลดละเลิกเหล้า ในระดับครอบครัว 3. ลดปัญหาหนี้สินหลังงานศพ ประหยัดเงินได้ เฉลี่ย 30,000 บาท/ศพ 4.ลดการทะเลาะวิวาทในงานศพ 5.พัฒนาผลไปสู่ตำบลข้างเคียง 6.เกิดกลุ่มองค์กรประชาคมระดับหมู่บ้านเป็นตัวอย่าง ตำบลตัวอย่าง 7.คณะกรรมการร่วมกันทำงานด้วยจิตอาสาและเจ้าภาพญาติผู้มาร่วมงานไม่มีการวิตกกังวลว่า พ่อบ้าน แม่บ้าน ปู่ ย่า ตายาย มาร่วมพิธีกรรมงานผู้วายชนม์แล้วต้องเมากลับบ้าน หรือการกลับบ้านด้วยการทะเลาะวิวาทกันเหมือนอดีตที่ผ่านมาก

การนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ในงานประจำ

ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคและพฤติกรรมการบริโภคเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ที่ลกลง

บทเรียนที่ได้รับ

จะนำไปสู่ความยั่งยืนในการจัดงานศพปลอดเหล้า คือ การร่วมมือร่วมพลังขึ้นกับความเข้มแข็งของชุมชน ยึดในกฎกติกาชุมชน ความสามัคคีของคนในชุมชนพร้อมใจกันเป็นหนึ่งเดียวกัน

ปัจจัยแห่งความสำเร็จ

ความร่วมมือของภาคีเครือข่าย ความสามัคคีของคนในชุมชนพร้อมใจกันเป็นหนึ่งเดียวกัน

Keywords

  • การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม,ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม,กิจกรรมงานศพปลอดเหล้า

เกี่ยวกับโรค

ไม่เกี่ยวข้อง

เป็นสิ่งประดิษฐ์

ไม่เป็น

เคยได้รับการตีพิมพ์

ไม่เคย

เคยได้รับการเผยแพร่มาก่อน

ไม่เคย

รางวัลที่ได้รับ

ไม่เคย

ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคล

นักวิจัย
ที่ปรึกษา
คุณอำนวย

ข้อมูลเกี่ยวกับองค์กร

จังหวัด
มหาสารคาม
เครือข่าย R2R
เครือข่าย R2R ร้อยแก่นสารสินธุ์
เขตสุขภาพ
เขตที่ 7
ภูมิภาค
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ข้อมูลอื่น ๆ

การสนับสนุน
การสนับสนุนทั่วไป
  • ไม่ได้รับการสนับสนุน/ไม่มีข้อมูล
การสนับสนุนจากแหล่งทุนสนับสนุน
  • ไม่มีข้อมูล
เผยแพร่เมื่อ
2561
งานวิจัยนี้ส่งโดย
มีผู้ส่งแทน : กาญจนา จันทะนุย (kang1@hotmail.com)
นำเข้าโดย
เครือข่าย R2R ประเทศไทย