งานคุ้มครองผู้บริโภคด้านสาธารณสุข เป็นงานที่เกี่ยวข้องกับการควบคุม กำกับ ดูแลและบังคับใช้ กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์สุขภาพและบริการสุขภาพ เช่น อาหาร ยา เครื่องสำอาง ร้านขายของชำใน หมู่บ้าน ร้านขายของชำในหมู่บ้าน เป็นร้านที่ผู้บริโภคนิยมซื้อสินค้ามากที่สุด เนื่องจากเป็นร้านที่อยู่ในหมู่บ้าน สะดวกในการซื้อสินค้า และเป็นร้านที่จำหน่ายสินค้าหลายชนิด เช่น ยา เครื่องสำอาง อาหารสำเร็จรูป เครื่องปรุงรส อาหารแปรรูป บุหรี่และแอลกอฮอล์ แต่จากการดำเนินงานคุ้มครองผู้บริโภคพบว่า การใช้เครื่อง อุปโภค บริโภคที่ไม่ได้มาตรฐานจากร้านขายของชำในชุมชน ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์อาหาร เครื่องสำอางที่ ไม่ได้คุณภาพ จำหน่ายให้กับประชาชนในชุมชน และยังจำหน่ายยาบางชนิดที่ไม่สามารถจำหน่ายได้ในร้านชำ ซึ่งผู้ประกอบการส่วนใหญ่ขาดความรู้ที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคทั้งสิ้น
๑. เพื่อคุ้มครองผู้บริโภค ๒. เพื่อให้ อสม. แกนนำคุ้มครองผู้บริโภค และผู้ประกอบการร้านขายของชำ มีความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพ ๓. เพื่อเฝ้าระวังการขายผลิตภัณฑ์สุขภาพ ในร้านขายของชำในหมู่บ้าน
ประชากรคืออาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.)จำนวน ๒๒๙ คน และผู้ประกอบการร้านขายของชำในชุมชน ในพื้นที่ตำบลกำแพง จำนวน ๑๖๐ คน ทำการสุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง โดย ๑)คัดเลือก อสม.แกนนำคุ้มครองผู้บริโภค มาจาก ๑๒ หมู่บ้านๆ ละ ๕ คน รวม ๖๐ คน และ ๒)ผู้ประกอบการร้านขายของชำในชุมชน ในพื้นที่ตำบลกำแพง จำนวน ๑๖๐ คน ทำการเก็บรวบรวมข้อมูล โดยใช้แบบประเมินความรู้ แบบสำรวจร้านค้าในงานคุ้มครองผู้บริโภค (คบส.) แบบประเมินความพึงพอใจ และการสุ่มตรวจร้านขายของชำในชุมชน นำข้อมูลมาวิเคราะห์โดยใช้สถิติ เชิงพรรณนา ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ การทำ Focus group และการสัมภาษณ์เชิงลึกในกลุ่มผู้ประกอบการร้านขายของชำ
ผลการศึกษาพบว่า อสม.แกนนำคุ้มครองผู้บริโภค ได้ทำการสำรวจร้านขายของชำในชุมชนครบทุกร้าน คิดเป็นร้อยละ ๑๐๐.๐๐ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่สาธารณสุขร่วมกับ อสม.แกนนำคุ้มครองผู้บริโภคได้สุ่มตรวจร้านขายของชำในชุมชน คิดเป็นร้อยละ ๔๒.๕๐ โดยพบว่าร้านขายของชำที่จำหน่ายยาที่สามารถจำหน่ายได้ในร้านขายของชำมีเพียงร้อยละ ๗.๓๖ และร้านขายของชำที่จำหน่ายเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ได้คุณภาพมีสูงถึงร้อยละ ๙๗.๐๖ ทั้งนี้ อสม. แกนนำคุ้มครองผู้บริโภคมีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับอาหาร ยา เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์สุขภาพ เพิ่มขึ้นหลังเข้ารับการอบรมมากกว่าร้อยละ ๙๐ ส่วนผู้ประกอบการร้านขายของชำมีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับอาหาร ยา เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์สุขภาพ เพิ่มขึ้นหลังเข้ารับการอบรมมากกว่าร้อยละ ๘๕ และที่สำคัญพบว่าผู้ประกอบการร้านขายของชำ มีความพึงพอใจต่อโครงการนี้อยู่ในระดับมากที่สุดร้อยละ ๗๖.๒๙
ในการดำเนินงาน ต้องกระตุ้นให้ผู้บริโภครู้จักรักษาสิทธิ์ของตนเอง สร้างความตระหนักให้เกิดขึ้นในตัวของผู้ประกอบการ การจัดกิจกรรมประกวดร้านขายของชำ เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้กับผู้ประกอบการ รวมทั้งเพิ่มพูนองค์ความรู้ใหม่ๆ ให้กับ อสม. แกนนำคุ้มครองผู้บริโภค เพื่อให้ อสม.แกนนำฯมีศักยภาพในการตรวจแนะนำ และที่สำคัญในการตรวจประเมินร้านขายของชำ ควรมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจากทุกหน่วยงานเข้าร่วมด้วย
ผู้บริโภคมีความตื่นตัวมากขึ้น การยอมรับปัญหาและทุกฝ่ายช่วยกันแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะปัญหาที่เกี่ยวกับการจำหน่ายยาที่ไม่สามารถจำหน่ายได้ในร้านขายของชำ พบว่าหลังการดำเนินการผู้ประกอบการให้ความร่วมมือมากขึ้น ขายเฉพาะยาสามัญประจำบ้าน การตระหนักถึงบทบาทของทุกๆฝ่ายที่เกี่ยวข้อง การทำงานเป็นทีมทั้งบุคลากรสาธารณสุข เจ้าหน้าที่จากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อสม.แกนนำคุ้มครองผู้บริโภค และที่สำคัญผู้ประกอบการร้านชำ
ความร่วมมือ ความตั้งใจของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งในส่วนของบุคลากรสาธารณสุข ผู้ประกอบการร้านขายของชำ อสม. แกนนำคุ้มครองผู้บริโภค โดยทุกฝ่ายมีเป้าหมายเดียวกันในการทำงาน เพื่อให้ผู้บริโภคได้บริโภคผลิตภัณฑ์สุขภาพที่มีคุณภาพ การเข้าใจบทบาทของตนเองในการขับเคลื่อนการดำเนินงาน การยอมเสียรายได้ของผู้ประกอบการร้านขายของชำ โดยเฉพาะในประเด็นของการเลิกจำหน่ายยาที่ไม่สามารถจำหน่ายได้ในร้านขายของชำ
ไม่เป็น
ไม่เคย
ไม่เคย
ไม่เคย