ตำบลไทรย้อย อำเภอเนินมะปราง มีผู้สูงอายุทั้งหมด ร้อยละ 13.11 ของประชากร แบ่งผู้สูงอายุตามกลุ่มศักยภาพ พบว่า มีกลุ่มติดสังคมร้อยละ97.76 กลุ่มติดบ้านร้อยละ1.77 กลุ่มติดเตียง ร้อยละ0.46 มีชมรมผู้สูงอายุ 1 ชมรม สมาชิกร้อยละ 73.24 ซึ่งกลุ่มผู้สูงอายุติดสังคมมีจำนวนมากเป็นกลุ่มวัยที่มีพลัง (Active Aging) ปัญหาพบว่าผู้สูงอายุมีปัญหาด้านสุขภาพร้อยละ 58 มีภาวะเครียด ร้อยละ 65 ผู้สูงอายุส่วนใหญ่มักอยู่บ้าน เพียงลำพัง ลูกหลานต้องออกไปทำงานต่างจังหวัด มีโอกาสในการเกิดโรคซึมเศร้าได้ และการเปลี่ยนแปลงสภาพร่างกายและสังคมมีผลโดยตรงต่อสภาพจิตใจของผู้สูงอายุ ดังนั้น จึงสนใจที่จะพัฒนาความสุข 5 มิติ เพื่อชะลอความเสื่อมของร่างกายหรือยืดระยะเวลาไม่ให้ผู้สูงอายุติดสังคมเข้าสู่กลุ่มติดบ้านและติดเตียงเร็วขึ้น โดยได้พัฒนามาจากหลักธรรม 4 ประการ คือ สุขกาย สุขใจ พลานามัยสมบูรณ์ เพิ่มพูนงานอดิเรก
1.เพื่อพัฒนารูปแบบการพัฒนาความสุข 5 มิติในผู้สูงอายุ และ 2.ประเมินผลของการใช้รูปแบบการพัฒนาความสุข 5 มิติในผู้สูงอายุในชมรมผู้สูงอายุตำบลไทรย้อย
การวิจัยเชิงปฏิบัติการครั้งนี้ศึกษาในผู้สูงอายุกลุ่มติดสังคม จำนวน 30 คน คัดเลือกแบบเฉพาะเจาะจง โดยที่ไม่เป็นโรคที่อยู่ในระยะควบคุมไม่ได้ ,ADL ≥12,และสมัครใจ ดำเนินงานเป็น 3 ระยะ 1) สังเคราะห์รูปแบบให้เหมาะสมตามบริบท 2) ดำเนินการตามรูปแบบ 4 ขั้นตอน คือ วางแผน ลงมือปฏิบัติงาน สังเกตผล สะท้อนผล กิจกรรมประกอบด้วย สุขสบาย, สุขสนุก, สุขสง่า, สุขสว่าง, สุขสงบ จัดเรียงลำดับของกิจกรรมโดยนำทฤษฏีมาสโลว์ มาเป็นกรอบแนวคิดในการจัดกิจกรรม เป็นเวลา 6 เดือน 3) ประเมินผลรูปแบบที่พัฒนาขึ้น เก็บข้อมูล สมรรถภาพร่างกาย สมรรถภาพสมอง คุณภาพชีวิติ และดัชนีความสุขเปรียบเทียบก่อนหลังเข้าร่วมกิจกรรม เครื่องมือในการวิจัย ได้แก่ แบบสัมภาษณ์ แบบวัดคุณภาพชีวิตที่ดี แบบคัดกรองสมองเสื่อม แบบประเมินความสุขคนไทย วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา Paired t- test และการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา
รูปแบบการสร้างสุขที่พัฒนาขึ้นครอบคลุมมิติด้านกาย จิต วิญญาณ จิตสังคม กิจกรรมสร้างสุขสอดคล้องตามบริบทและวัฒนธรรมท้องถิ่น กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศชาย ร้อยละ 60 อายุระหว่าง 60-69 ปี ร้อยละ 50 สถานภาพคู่ ร้อยละ 60 ดัชนีมวลกาย น้ำหนักตัวปกติ ร้อยละ 40 เมื่อเข้าร่วมโปรแกรมเป็นระยะเวลา 6 เดือน พบว่า ระดับคะแนนเฉลี่ยคุณภาพชีวิตของกลุ่มตัวอย่างสูงขึ้นอย่างมีนัยทางสถิติ (p-value <0.001) ในทุกองค์ประกอบ คะแนนเฉลี่ยความสุข ของกลุ่มตัวเฉลี่ยเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยทางสถิติ (p-value <0.001) ในทุกองค์ประกอบ การประเมินการทำหน้าที่ของสมองด้านการับรู้ กลุ่มตัวอย่างมีคะแนนค่าเฉลี่ยการรับรู้และความจำสูงกว่าก่อนเข้าร่วมอย่างมีนัยทางสถิติ (p-value <0.001) สมรรถภาพร่างกาย ดีขึ้นของกลุ่มตัวอย่างดีขึ้นอย่างมีนัยทางสถิติ (p-value <0.001)
การนำรูปแบบที่พัฒนาขึ้นไปใช้ในชมรมผู้สูงอายุทุกแห่งของอำเภอเนินมะปราง นำโปรแกรมสร้างสุขไปใช้ในการจัดกิจกรรมชมรมผู้สูงอายุ จำนวน 14 ชมรม โดยให้แกนนำผู้สูงอายุเป็นตัวหลักในการจัดกิจกรรม ตลอดจนนำไปพัฒนาในกลุ่มที่ติดบ้าน ติดเตียง โดยจัดกิจกรรมให้เหมาะสมตามสภาพของผู้สูงอายุ
รูปแบบสร้างสุขในชมรมผู้สูงอายุ กิจกรรมและระยะเวลาต้องมีความเหมาะสมตามบริบทของพื้นที่ เน้นการพัฒนาสุขให้ครอบคลุมในทุกมิติ กิจกรรมการดำเนินงานต้องง่ายและผู้สูงอายุมีส่วนร่วมในการกำหนดกิจกรรมและการประเมินผล
1. ทีมมีความพร้อม มีใจและสู้ไปด้วยกัน 2. ภาคีเครือข่ายเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินงาน 3. ผู้สูงอายุมีส่วนร่วมในทุกกิจกรรม 4. ผู้บริหารให้การสนับสนุน
ไม่เป็น
ไม่เคย
ไม่เคย
รางวัลรองชนะเลิศ ลำดับที่ 2 เขตสุขภาพที่ 2 สำนักงานเขตสุขภาพที่ 2 2561