งานบริบาลเภสัชกรรมผู้ป่วยใน (Pharmaceutical Acute Care) คือการมีบทบาทของเภสัชกรในการใช้ยาอย่างปลอดภัย เพิ่มคุณภาพในการดูแลรักษา จากการดำเนินงาน Pharmaceutical Acute Care รพ.ควนขนุนในปี 2559 พบปัญหาจากการใช้ยาจำนวน 289 ปัญหา ส่วนใหญ่ได้แก่การไม่ได้รับยาที่เคยได้รับอยู่อย่างต่อเนื่องร้อยละ 17.76 โดยปัญหาดังกล่าวได้รับการป้องกันและแก้ไขร้อยละ 83.39 แต่อย่างไรก็ตามยังพบปัญหาจากการใช้ยาที่รุนแรง ได้แก่ผู้ป่วยไม่ได้รับการปรับขนาดยาตามการทำงานของไตทำให้ได้รับยาขนาดมากเกินไป ผู้ป่วยเกิดอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยาที่มีความเสี่ยงสูงส่งผลให้เกิดภาวะเลือดออก และผู้ป่วยได้รับยาที่มีอันตรกิริยาระหว่างกันทำให้เกิดภาวะ Rhabdomyopathy ส่งผลให้เกิดอันตรายจากการใช้ยา ดังนั้นจึงได้มีการศึกษาผลของการพัฒนารูปแบบงานบริบาลเภสัชกรรมผู้ป่วยในช่วยให้กระบวนการดูแลผู้ป่วยมีประสิทธิภาพและปลอดภัยยิ่งขึ้น
เพื่อประเมินรูปแบบการบริบาลทางเภสัชกรรมผู้ป่วยใน (Pharmaceutical Acute Care) ต่อการเกิดปัญหาจากการใช้ยา
การศึกษาแบบ Action Research ในผู้ป่วยในทั้งหมดที่เข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาลควนขุนน ระหว่างเดือน ตุลาคม 2559– กุมภาพันธ์ 2560 โดยทบทวนประวัติการรักษาจากแบบบันทึก medication reconciliation, แบบบันทึก Trigger Tool และแบบบันทึกPrescribing analysis เพื่อบ่งชี้ปัญหาและส่งต่อเภสัชกรประจำหอผู้ป่วยดูแลต่อเนื่อง ได้แก่ทบทวนประวัติการใช้ยาเพิ่มเติมและส่งต่อผู้เกี่ยวข้อง, Intensive ADR ติดตามอาการไม่พึงประสงค์ตั้งแต่ผู้ป่วยเริ่มใช้ยา ในกลุ่มผู้ป่วยที่ได้รับยาที่มีมีความเสี่ยงสูง, เฝ้าระวังการเกิดอันตรกิริยาของยาที่สั่งใช้ร่วมกัน หลีกเลี่ยงการใช้ยาที่มีอันตรกิริยาที่รุนแรงถึงชีวิต (Fatal Drug Interaction) และการปรับขนาดยาในผู้ป่วยที่มีการทำงานของไตบกพร่อง รวบรวมข้อมูลจากแบบบันทึก นำมาวิเคราะห์ข้อมูลในเชิงพรรณนา โดยวิเคราะห์ร้อยละของการเกิดปัญหาที่เกี่ยวกับการใช้ยา และร้อยละการแก้ไขปัญหาจากการใช้ยา
ผู้ป่วย 964 ราย พบปัญหาจากการใช้ยา 245 ปัญหา (ร้อยละ 25.41) ได้แก่การไม่ได้รับยาที่ควรได้รับร้อยละ 70.2 ความไม่ร่วมมือในการใช้ยาตามสั่ง ร้อยละ 24.08 ปัญหาอื่นๆ ได้แก่ การเกิดอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา, การเกิดอันตรกิริยาของยาที่สั่งใช้, การได้รับยาซ้ำซ้อนและได้รับยาขนาดน้อยเกินไป ร้อยละ 2.04, 1.63, 1.22, และ 0.82 ตามลำดับ และจากการเปรียบเทียบการพัฒนารูปแบบงานบริการเภสัชกรรมผู้ป่วยในพบว่าสามารถแก้ไขปัญหาจากการใช้ยาได้เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 89.39 เป็นร้อยละ 96.33 ไม่พบปัญหาจากการได้ยาที่เกิดจากการได้รับยาที่ไม่เหมาะสมกับโรคที่เป็นและการที่ผู้ป่วยได้รับยาขนาดมากเกินไป จากการมี trigger tool และมีเครื่องมือในการปรับขนาดยาในผู้ป่วยที่มีการทำงานของไตบกพร่อง ลดความเสี่ยงในการได้รับยาขนาดมากเกินไป และปัญหาที่เกี่ยวกับผู้ป่วยได้รับยาขนาดน้อยเกินไปและความไม่ร่วมมือในการใช้ยาตามสั่งของผู้ป่วยลดลง
สามารถให้การดูแลรักษาผู้ป่วยได้อย่างมีคุณภาพ เกิดกระบวนการทำงานเป็นทีม การแลกเปลี่ยนเรียนรู้และความคิดเห็นระหว่างบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงสามารถป้องกันและลดความเสี่ยงจากเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา ความคลาดเคลื่อนทางยา และปัญหาจากการใช้ยาได้ และเกิดการพัฒนาและปรับปรุงงานบริบาลเภสัชกรรมผู้ป่วยในให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นสามารถป้องกันและแก้ไขปัญหาจากการใช้ยาในรอยต่อของการให้บริการ
การบริบาลทางเภสัชกรรมช่วยค้นหาปัญหา แก้ไขหรือป้องกันปัญหาจากการใช้ยาได้ และเพิ่มคุณภาพในการดูแลผู้ป่วย ผู้ป่วยได้รับประโยชน์สูงสุดจากการใช้ยา ซึ่งจากการดำเนินงานพบว่าสามารถดำเนินงานได้ครอบคลุมขึ้น แต่ยังพบปัญหาจากการใช้ยาที่สำคัญคือ ผู้ป่วยไม่ได้รับยารักษาในโรคที่เป็นตั้งแต่แรกรับ ซึ่งเป็นโอกาสในการพัฒนาในการประสานให้ได้รับข้อมูลครบถ้วนมากยิ่งขึ้น และครอบคลุมทุกช่วงรอยต่อของการให้บริการ
ปัญหาการใช้ยาโดยเฉพาะความไม่ร่วมมือในการใช้ยาตามสั่งของผู้ป่วย สาเหตุหลักเกิดจากไม่ทราบข้อบ่งใช้ที่ชัดเจน ประสิทธิผลจากการใช้ยา และภาวะแทรกซ้อนจากการไม่ใช้ยา การดูแลผู้ป่วยร่วมกันเป็นทีมสหสาขาวิชาชีพทำให้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ปัญหาการทำงาน ร่วมกันวางแผนแก้ไขและป้องกันปัญหา รวมถึงมีการส่งต่อปัญหาดังกล่าวให้ทีมเยี่ยมบ้าน เพื่อประเมิน ติดตาม และป้องกันความไม่ร่วมมือจากการใช้ยาต่อเนื่อง
ไม่เป็น
ไม่เคย
ไม่เคย
ไม่เคย