ปัจจุบันโรคภูมิแพ้เป็นปัญหาสาธารณสุขของประเทศมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆในทุกปี กรมการแพทย์แผนไทยฯจึงเล็งเห็นถึงความสำคัญได้กำหนดให้โรคภูมิแพ้ทางเดินหายใจส่วนต้นเป็น1ใน4โรคหลัก และจากการสำรวจสถิติผู้มารับบริการที่คลินิกแพทย์แผนไทย โรงพยาบาลศรีสะเกษ3ปีย้อนหลังพบว่า มีจำนวนผู้ป่วยที่มีอาการของโรคภูมิแพ้ทางเดินหายใจส่วนต้นดังนี้ ปี 2557 จำนวน 48 ราย ปี 2558 จำนวน 52 ราย และปี 2559 จำนวน 63 ราย ผู้จัดทำตระหนักถึงความสำคัญจึงได้ทำการศึกษาการรักษาโรคภูมิแพ้โดยการสุมยาสมุนไพรที่มีสรรพคุณในการบรรเทาอาการภูมิแพ้ ในตำรับประกอบด้วยตัวยาสมุนไพร ดังนี้ ข่า (Alpinia galanga (L.) Willd.) 5 กรัม ขิง(Zingiber officinale Roscoe) 5 กรัม หอมแดง (Allium ascalonicum L.) 5 กรัม มะกรูด (Citrus hystrix DC.) 5 กรัม พิมเสน (Dryobalanops aromatica Gaertn.) 0.1 กรัม และการบูร (Cinnamomum camphora (L.) Presl.) 0.1 กรัม
เพื่อศึกษาประสิทธิผลของตำรับยาสุมแก้ภูมิแพ้ในการบรรเทาอาการโรคภูมิแพ้ทางเดินหายใจส่วนต้น
การศึกษาครั้งนี้ เป็นการศึกษากึ่งทดลอง (Quasi Experimental Rresearch) โดยมีแบบกลุ่มตัวอย่างเดียว (Single Subject Research) ทดสอบ ก่อน – หลัง (one group pretest – posttest design) โดยคัดเลือกอาสาสมัครจากผู้มารับบริการที่ได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์แผนปัจจุบันว่าเป็นโรคภูมิแพ้ทางเดินหายใจส่วนต้น (Allergic rhinitis) จำนวน 15 ราย เพื่อรับการรักษาด้วยยาสุมแก้ภูมิแพ้ โดยใช้วิธีสุมยานาน 10 นาที จำนวน 3 ครั้งติดต่อกัน โดยตลอดระยะเวลาในการเข้าร่วมโครงการจะต้องไม่รับประทานยาลดน้ำมูกบรรเทาอาการหวัดคัดจมูก หรือรับการรักษาด้วยวิธีอื่นใด หลังการรักษามีเครื่องมือประเมินอาการผู้ป่วย ก่อนและหลังการสุมยาแก้ภูมิแพ้ และใช้แบบสอบถามสำรวจความพึงพอใจต่อการใช้ยาสุมแก้ภูมิแพ้ โดยทำการเก็บข้อมูลตั้งแต่ มกราคม 2560-พฤษภาคม 2560
จากการศึกษาพบว่าผู้เข้าร่วมโครงการที่มีอาการโรคภูมิแพ้ทางเดินหายใจส่วนต้น จำนวน 15 ราย ไม่มีอาการแทรกซ้อนจากการสุมยา จำนวน 15 ราย คิดเป็น 100% โดยผู้เข้าร่วมโครงการที่มีอาการคันตาจำนวนทั้งหมด 5 ราย มีอาการลดลงจำนวน 5 ราย คิดเป็น 100% มีอาการคันจมูก/จาม จำนวนทั้งหมด 15 ราย มีอาการลดลงจำนวน 8 ราย คิดเป็น ร้อยละ 53.33 มีอาการคัดแน่นจมูก จำนวนทั้งหมด 13 ราย มีอาการลดลงจำนวน 10 ราย คิดเป็น ร้อยละ 76.92 มีอาการน้ำมูกไหล จำนวนทั้งหมด 13 ราย มีอาการลดลงจำนวน 1 ราย คิดเป็น ร้อยละ 7.69 และมีอาการน้ำมูกลงคอ จำนวนทั้งหมด 9 ราย มีอาการลดลงจำนวน 7 ราย คิดเป็น ร้อยละ 77.78 และมีความพึงพอใจต่อการใช้ยาสุมแก้ภูมิแพ้มากที่สุด คิดเป็น ร้อยละ 73.33
เนื่องจากโรคภูมิแพ้ทางเดินหายใจระบุเป็น1ใน4โรคหลักที่กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทยืทางเลือกระบุให้จัดตั้งคลินิกพิเศษขึ้นซึ่งเป็นการสนองนโยบายของกรม ได้เพิ่มทางเลือกการรักษาส่งเสริม ป้องกันสุขภาพให้กับผู้มารับบริการอีกทางหนึ่ง ลดค่าใช้จ่ายยาภายในโรงพยาบาลเอาสมุนไพรใกล้ตัวมาใช้ให้เกิดประโยชน์สุงสุด และเป็นการเพิ่มศักยภาพการทำงานของผู้จัดทำได้เรียนรู้ขั้นตอน ระเบียบวิธีวิจัยมากขึ้น
ได้เรียนรู้ขั้นตอน ระเบียบวิธีวิจัยมากขึ้น มีระบบการคิดเป็นระเบียบขั้นตอน เก็บข้อมูลอย่างมีวินัยแบบแผน ได้สร้างสัมพันธภาพกับบุคคลอื่นจากหลายๆวิชาชีพ รวมถึงผู้เข้าร่วมโครงการ ได้พบปะพุดคุยถึงเรื่องต่างๆ และได้เรียนรู้เกี่ยวกับยาสมุนไพร งานวิจัยที่ผ่านมา เรียนรุ้วิธีการให้ได้มาซึ่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือและถูกต้อง
ความร่วมมือกันของหลากหลายสาขาวิชาชีพทั้งแพทย์แผนไทย แพทย์แผนไทยประยุกต์ แพทย์ พยาบาล เภสัชกร เป็นต้น รวมถึงความร่วมมือของผู้เข้าร่วมโครงการทุกราย
ไม่เป็น
ไม่เคย
ไม่เคย
ไม่เคย