แผลกดทับเป็นปัญหาสำคัญและพบบ่อยในผู้ป่วยที่มีปัญหาการเคลื่อนไหว เมื่อเกิดแผลกดทับจะเกิดผลกระทบต่อผู้ป่วยทั้งทางร่างกาย-จิตใจสูญเสียงบประมาณการรักษา2เท่านอนโรงพยาบาลนานกว่าปกติ3-5เท่า(www.nurse.cmu.ac.th) ในด้านวิชาชีพการพยาบาล อัตราการเกิดแผลกดทับเป็นตัวชี้วัด ที่สะท้อนถึงคุณภาพการพยาบาล เป็นอุปสรรคการให้การพยาบาลที่มีมาตรฐาน งานห้องคลอดโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อพบอุบัติการณ์ทารกคลอดก่อนกำหนดที่ใช้เครื่องช่วยหายใจเกิดแผลกดทับ 1รายคิดเป็นร้อยละ50 มีประเด็นที่น่าสนใจคือการใช้อุปกรณ์ลดแรงกดต่อผิวหนังเพื่อป้องกันการเกิดแผลกดทับ เช่นที่นอนน้ำ-ที่นอนลม ทีมงานทดลองทำที่นอนน้ำจนเกิดนวัตกรรมที่นอนดุ๊กดิ๊ก ปัจจุบันการปฏิบัติการพยาบาลต้องคำนึงถึงหลักฐานเชิงประจักษ์ จึงความสนใจศึกษาผลการใช้นวัตกรรมที่นอนดุ๊กดิ๊กเพื่อป้องกันการเกิดแผลกดทับในทารกแรกเกิดคลอดก่อนกำหนดและทารกที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ
เพื่อศึกษาผลการใช้นวัตกรรมที่นอนดุ๊กดิ๊กเพื่อป้องกันการเกิดแผลกดทับทารกแรกเกิดคลอดก่อนกำหนด และทารกที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ
เป็นวิจัยเชิงปฏิบัติการ(Action Research) เพื่อพัฒนานวัตกรรมทางการพยาบาล กลุ่มตัวอย่างเป็นทารกแรกเกิดคลอดก่อนกำหนด และทารกที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ จำนวน 38 ราย โดยทารกทุกรายต้องได้รับการดูแลในตู้อบและใช้ นวัตกรรมที่นอนดุ๊กดิ๊ก ในตึกคลอดโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ ช่วงเวลาดำเนินการ ระหว่าง 1 มกราคม 2553 –1 มกราคม 2555 ขั้นตอนในการศึกษาใช้ รูปแบบการวิจัยและพัฒนาตามวงจร PDCA-PDSA แบ่งเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงพัฒนานวัตกรรมและช่วงทดลองใช้นวัตกรรม เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม แบบบันทึก การสังเกต ข้อมูลจากเวชระเบียน และใช้ร้อยละในการแปรผลข้อมูล
- ผลลัพธ์ต่อผู้ป่วย อุบัติการณ์การเกิดแผลกดทับ = 0 จากการใช้นวัตกรรมที่นอนดุ๊กดิ๊กในทารกแรกเกิดคลอดก่อนกำหนด 29 ราย และทารกที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ 9 ราย รวม 38 ราย บิดามารดามีความพึงพอใจในการให้การพยาบาลร้อยละ 100 เจ้าหน้าที่มีความพึงพอใจในการใช้งานร้อยละ 100 - ผลการใช้นวัตกรรมที่นอนดุ๊กดิ๊กพบว่ามีความปลอดภัย ไม่เกิดอุบัติการณ์ไม่พึงประสงค์ เช่น ภาวะถุงน้ำรั่วซึม หรือภาวะผิวหนังไหม้ ตัวอย่างการใช้นวัตกรรมเป็น เด็กแรกเกิดคลอดก่อนกำหนดอายุครรภ์มารดา 32 สัปดาห์ น้ำหนักแรกเกิด 1,000 กรัมให้การดูแลในตู้อบ และต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ 75 วัน รวมการรักษา 110 วัน ไม่มีอุบัติการณ์เกิดแผลกดทับ
ต่อผู้ป่วย ทารกปลอดภัยไม่เกิดแผลกดทับ บิดามารดามีความพึงพอใจในการพยาบาลที่ได้รับ ต่อหน่วยงาน เกิดนวัตกรรมที่นอนดุ๊กดิ๊ก ได้รูปแบบการดูแลชัดเจน เจ้าหน้าที่มีความเข้าใจ ภาคภูมิใจ มั่นใจในการให้การพยาบาล ต่อองค์กร ลดวันนอน ลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ความคุ้มค่าของนวัตกรรมอุปกรณ์ที่นำมาประดิษฐ์ หาง่าย ราคาถูก ทนทานนำมาใช้ต่อได้(ผ้าปูที่นอน 2 ผืน,ถุงUrine bag,ยางรัดของ,น้ำเปล่า500-600 ซีซี)
การพูดคุยหาปัญหาหน้างานจากงานประจำ การทำงานเป็นทีม ระดมสมอง การให้ความร่วมมือของเจ้าหน้าที่ทุกคน การยอมรับความคิดเห็น เป็นส่วนสำคัญในการเรียนรู้ การทดลองอาจต้องทำหลายครั้งหลายวิธี อาจต้องขอความร่วมมือจากหน่วยงานอื่นบ้างเราทำงานให้สำเร็จเพียงลำพังไม่ได้ ความร่วมมือร่วมกันคิดค้นแนวทางแก้ไขปัญหาหน้างานก่อให้เกิดนวัตกรรมใหม่เพื่อปรับปรุงกระบวนการทำงานให้ดีขึ้นภายใต้ขอบเขตของวิชาชีพและบริบทของหน่วยงาน
การจุดประกายความคิดจากความสงสัยในปัญหาหน้างาน ถูกสานต่อ ก่อเกิดความตระหนักและอยากแก้ไขปัญหา การแบ่งเวลาใส่ใจ ให้ความสำคัญ การมีเป้าหมายร่วมกัน การต่อยอดความคิด ไม่ปิดกั้นวิถีทาง จะสร้างผลลัพธ์ที่งดงาม พลังคน + พลังทีม + พลังใจ + พลังงาน = ความสามัคคี = การสานต่อความสำเร็จ ดังนั้นพลังความสามัคคีของทีมงานจะช่วยแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้และนั่นคือปัจจัยสำคัญแห่งความสำเร็จ
ใช้ NEST หรือที่นอนรังนก เป็นส่วนประกอบในการประดิษฐ์นวัตกรรม จากการฟังวิชาการของ ศ.นพ. เกรียงศักดิ์ จิรแพทย์
ตีพิมพ์ผลงานวิจัย R2Rเครือข่ายอิสานตอนบน
มหกรรมเครือข่าย R2Rเครือข่ายอิสานตอนบน สปสช.เขต8 อุดรธานี เซ็นทารา โฮเต็ล แอนด์คอนเวนชั่น เซนเตอร์ อุดรธานี 2556
รองชนะเลิศอันดับ 2 ระดับทุติยภูมิ เครือข่าย R2Rเครือข่ายอิสานตอนบน สปสช.เขต8 อุดรธานี